วิธีเลิกอิจฉาริษยา

สารบัญ:

วิธีเลิกอิจฉาริษยา
วิธีเลิกอิจฉาริษยา

วีดีโอ: วิธีเลิกอิจฉาริษยา

วีดีโอ: วิธีเลิกอิจฉาริษยา
วีดีโอ: 5 ข้อคิดเปลี่ยนชีวิตให้เลิกเปรียบเทียบและเลิกอิจฉา 2024, พฤศจิกายน
Anonim

ความอิจฉามักถูกมองว่าเป็นบาป ความรู้สึกที่ทำลายบุคคล เหตุผลของมันอยู่ที่ความต้องการสิ่งที่มีความหมายสำหรับเราที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ความหึงหวงปรากฏขึ้นเมื่อเราเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากกว่า ยิ่งสถานะทางสังคมแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างวัตถุแห่งความอิจฉาริษยาและความอิจฉาริษยา ยิ่งความรู้สึกอิจฉายิ่งเจ็บปวด คุณจะกำจัดความรู้สึกหนักอึ้งนี้ออกไปได้อย่างไร?

วิธีเลิกอิจฉาริษยา
วิธีเลิกอิจฉาริษยา

คำแนะนำ

ขั้นตอนที่ 1

เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบางครั้งเป้าหมายของความอิจฉาก็ยินดีเปลี่ยนสถานที่กับเรา เหรียญมีสองด้าน ตำแหน่งที่ดีมักเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบที่มากขึ้นเสมอ ความงามไม่ได้รับประกันความสุขในครอบครัว มักจะจำคำพูดที่ว่า "มันดีที่เราไม่ได้อยู่"

ขั้นตอนที่ 2

หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอย่างไม่รู้จบ การเปรียบเทียบ "ตัวตนในอดีต" กับ "ตัวตนในปัจจุบัน" นั้นมีประโยชน์มากกว่ามาก ดังนั้นคุณจึงสามารถแก้ไขปัญหาของคุณได้อย่างสมบูรณ์

ขั้นตอนที่ 3

จำไว้ว่าต้นกำเนิดของความอิจฉาของคุณมาจากไหน คุณคิดว่าพ่อแม่ของคุณพลาดสิ่งสำคัญหรือไม่? หรือว่าคุณเองก็พลาดช่วงเวลาดีๆ ในชีวิตไป? ให้อภัยตัวเองและครอบครัวสำหรับสิ่งนี้ และเริ่มต้นจากศูนย์

ขั้นตอนที่ 4

ลองคิดดู คุณต้องการสิ่งที่คุณอิจฉาจริงๆ หรือเปล่า? ทำไมคุณต้องการสิ่งนี้มาก มองหาสาเหตุของความอิจฉาริษยา. แล้ววันหนึ่งคุณจะเป็นอิสระจากมันตลอดไป

ขั้นตอนที่ 5

แทนที่จะคร่ำครวญถึงความสำเร็จของเพื่อนคุณอีกครั้ง ให้เริ่มใช้ชีวิตของคุณเองโดยใช้โอกาสที่มีให้คุณ

ขั้นตอนที่ 6

ดูแลและให้คุณค่ากับสิ่งที่คุณมี มีผู้คนมากมายในโลกที่ใช้ชีวิตแย่กว่าคุณมาก และพวกเขาไม่ได้สิ้นหวังหรืออิจฉาผู้อื่นเสมอไป บางครั้งการจินตนาการว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสิ่งที่คุณคุ้นเคย หากไม่มีคนที่คุณรัก สิ่งนี้ทำให้มีสติในทันทีและความปรารถนาที่จะอิจฉาก็หายไปเอง

ขั้นตอนที่ 7

ความอิจฉาไม่ได้ทำลายล้างเสมอไป อาจเป็นแรงจูงใจให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก สิ่งสำคัญคือการนำความคิดของคุณไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ลองนึกถึงสิ่งที่ช่วยให้คนที่คุณอิจฉาประสบความสำเร็จ วางแผนสิ่งที่คุณอยากได้ในอีกสามถึงห้าปีข้างหน้า และก้าวไปสู่เป้าหมายของคุณโดยไม่ถูกความอิจฉาริษยาเสียสมาธิอีกต่อไป พัฒนาความสามารถในการชื่นชมยินดีอย่างจริงใจกับทั้งความสำเร็จของคุณเองและความสำเร็จของผู้อื่นอย่างจริงใจ แล้วชีวิตจะเปล่งประกายด้วยสีสันใหม่