การคิดเชิงบวกเป็นลักษณะของคนที่สามารถค้นหาช่วงเวลาดีๆ ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดได้ ทำไมนักจิตวิทยาถึงแนะนำให้คิดบวกเสมอ? ประการแรก เพราะอารมณ์เชิงลบไม่เพียงแต่ทำให้โลกมืดมัว แต่ยังขัดขวางการพัฒนามนุษย์ด้วย
ความคิดเชิงลบนั้นเหนียวแน่นมากและนำไปสู่สิ่งเดียวกัน ผลที่ได้คือ ความเครียด ซึมเศร้า โรคประสาท ขาดความมั่นใจในตนเองและความสามารถของตนเอง สิ่งนี้จะป้องกันบุคคลจากการพัฒนาทางปัญญา การเติบโตทางอาชีพ และการสื่อสารกับผู้อื่นอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ความคิดเชิงลบยังทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และก่อให้เกิดโรคร้ายแรงในระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือด และแม้กระทั่งมะเร็ง
ประโยชน์ของการคิดเชิงบวกคือช่วยให้คุณก้าวไปไกลกว่ารูปแบบเดิมๆ และกำหนดทิศทางการไหลของความคิดไปสู่การสร้างสรรค์ อารมณ์ที่สดใส ความประทับใจที่มองไม่เห็นภายใต้อิทธิพลของการปฏิเสธ เปิดใจ และทำให้คุณมองเห็นสถานการณ์จากด้านที่คาดไม่ถึง คนที่มีความคิดเชิงบวกสามารถสื่อสารกับผู้คนได้ง่ายขึ้น เขามีความตึงเครียดน้อยลง ยิ้มและเล่นมุกบ่อยขึ้น ในทุกสถานการณ์เขาสามารถหาช่วงเวลาดีๆ ได้
พลังแห่งความคิดสร้างได้และฆ่าได้ เมื่อคิดถึงความพ่ายแพ้และความยากลำบาก คุณดึงดูดพวกเขาให้เข้ามาหาตัวเอง และโดยการคิดในแง่บวก จินตนาการถึงผลลัพธ์ในอุดมคติ คุณทำให้มันเป็นไปได้มากขึ้น ถ้าแน่นอน คุณพยายามที่จะเติมเต็มความปรารถนาของคุณ พลังแห่งความคิดเชิงบวกดึงดูดโชค แรงบันดาลใจ ความมั่นใจในชัยชนะ ดังนั้น หากคุณต้องการเป็นคนที่มีสุขภาพดีและประสบความสำเร็จ คุณต้องเรียนรู้ที่จะคิดบวก ทำอย่างไร?
พยายามดูหนังและอ่านหนังสือที่สร้างอารมณ์ไม่ดีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห้ามดูข่าวที่บอกเกี่ยวกับภัยพิบัติ อุบัติเหตุ และเหตุการณ์ต่างๆ พยายามมองหาสิ่งที่เป็นบวกในผู้คนเสมอ ยิ้มและชมเชย เอาใจใส่และเอาใจใส่ ยิ่งคนรอบตัวคุณปฏิบัติต่อคุณมากเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับสิ่งดีๆ จากพวกเขามากเท่านั้น ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่ารีบคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดีและตำหนิใครซักคน คิดว่าปัญหาเป็นงานที่ต้องแก้ไข เป็นบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ เพื่อไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต