หลังจากสูญเสียคนที่รักไป ไม่ว่าจิตใจจะยากเย็นเพียงใด เราต้องอยู่ต่อไป ความตายเป็นบททดสอบเสมอ อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านมันไปได้ เราก็มีศีลธรรมที่เข้มแข็งขึ้นมาก แต่จะต้านทานภาวะซึมเศร้าและความคิดดำได้อย่างไร?
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ใช่ พ่อของคุณไม่อยู่กับคุณแล้ว แต่การจากโลกนี้ไป เขาไม่ต้องการให้คุณต้องทนทุกข์ อย่าทรมานตัวเองด้วยการเตือนอย่างต่อเนื่องว่าคุณไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขาไม่มีเวลาพูดคำที่อบอุ่น
ขั้นตอนที่ 2
บอกตัวเองว่าคุณทำทุกอย่างเพื่อพ่อ และถ้าคุณไม่หาเวลามาพูดจาดีๆ กับเขา นี่ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด เขาคงรู้ว่าคุณรักเขา แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยเขาไป
ขั้นตอนที่ 3
การปล่อยวางไม่ได้หมายความว่าลืม แต่จำเป็นต้องยอมรับการดูแลของคนที่คุณรัก ร้องไห้ น้ำตาทำให้จิตวิญญาณสว่างขึ้น การเก็บความเจ็บปวดจากการสูญเสียในตัวเองเป็นสิ่งที่อันตราย ลองนึกภาพความโศกเศร้าหายไปพร้อมกับน้ำตา
ขั้นตอนที่ 4
เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ คุณสามารถและควรแบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับคนที่คุณรัก คุณควรไปพบนักจิตวิทยา สิ่งสำคัญคืออย่าถอนตัวออกจากตัวเอง
ขั้นตอนที่ 5
ไม่ว่าในกรณีใดอย่ายอมแพ้อาหารแม้ว่าจะไม่มีความอยากอาหารก็ตาม พยายามนอนหลับให้เพียงพอ หากอาการนอนไม่หลับยังคงอยู่ ให้ใช้ยาระงับประสาทตามธรรมชาติ
ขั้นตอนที่ 6
สื่อสารกับธรรมชาติ รับลูกแมวหรือลูกสุนัข พี่เล็กของเราทำให้เสียสมาธิและสบายใจ พวกเขารักเราอย่างไม่แยแสและไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
ขั้นตอนที่ 7
จำไว้ว่าพ่อแม่ยังคงอยู่ในลูกของพวกเขา บางครั้งลูกหลานก็คล้ายกับปู่ย่าตายายอย่างน่าประหลาดใจ ไม่มีอะไรหายไปอย่างไร้ร่องรอย ตราบใดที่มนุษย์ยังมีชีวิตอยู่
ขั้นตอนที่ 8
ความทรงจำของคนที่คุณรักซึ่งไม่ได้อยู่กับเราแล้วช่วยและสนับสนุน เมื่อความเจ็บปวดจากการสูญเสียบรรเทาลง ความทรงจำของพ่อจะกลายเป็นคำปลอบใจในทะเลแห่งพายุแห่งชีวิต
ขั้นตอนที่ 9
เราแต่ละคนต้องยอมรับความจริงที่ว่าการจากไปของพ่อแม่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความรู้นี้ช่วยให้เราดำเนินชีวิตตามเวลาที่จัดสรรไว้อย่างสดใส ไม่หมกมุ่นอยู่กับความโศกเศร้าไม่รู้จบ ซึ่งยังไม่ได้ช่วยให้ใครจัดการกับความเศร้า
ขั้นตอนที่ 10
ช่วยเหลือผู้ที่ยากกว่า มีคนอยู่ใกล้ที่ต้องการการดูแลอย่างมากอย่าปฏิเสธพวกเขาให้ความอบอุ่น และอีกไม่นานความเจ็บปวดจากการสูญเสียจะบรรเทาลง มีกำลังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป