หลังจากที่สูญเสียคนที่รักไป ไม่ว่าจิตใจจะยากเย็นเพียงใด เราต้องอยู่ต่อไป ความตายของคนที่เรารักเป็นการทดสอบว่าเราแข็งแกร่งขึ้นทางวิญญาณ จะป้องกันตัวเองไม่ให้ติดโรคซึมเศร้าได้อย่างไร?
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
คนที่ทิ้งคุณแทบไม่ต้องการให้คุณต้องทนทุกข์ทรมาน อย่าถูกทรมานด้วยความทรงจำ เลื่อนดูวันที่แสนโรแมนติกในหัว ฟื้นภาพลักษณ์ของเขา บุคคลอันเป็นที่รักต้องได้รับการปลดปล่อยทางจิตใจ
ขั้นตอนที่ 2
การปล่อยวางหมายถึงไม่ลืม แต่ยอมรับและยอมรับ อย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตจะต้องเปลี่ยนแม้ว่าจะไม่ใช่ในทันที แต่คุณควรสร้างนิสัยและพิธีกรรมใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนที่คุณรักที่จากไป
ขั้นตอนที่ 3
ปล่อยให้น้ำตาตัวเองทำให้จิตวิญญาณสว่างขึ้น และถึงแม้คุณดีในที่สาธารณะ ก็ไม่ควรสะสมความทุกข์ในตัวเอง ลองนึกภาพความเจ็บปวดนั้นหายไปพร้อมกับน้ำตา
ขั้นตอนที่ 4
แบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับคนที่คุณรัก คุณสามารถพูดคุยกับนักจิตวิทยา อย่าโดดเดี่ยวในตัวเอง สื่อสาร และในหัวข้อที่เป็นนามธรรม
ขั้นตอนที่ 5
พยายามทำกิจวัตรประจำวันอย่าปฏิเสธอาหารแม้ว่าคุณจะไม่มีความอยากอาหารก็ตาม อย่าลืมนอนหลับหากคุณนอนไม่หลับให้ดื่มยากล่อมประสาทตามธรรมชาติ การนอนหลับเป็นยาหลักของคุณ
ขั้นตอนที่ 6
หากในที่ทำงานคุณสามารถพักร้อนเพื่อพักฟื้นได้ คุณไม่ควรดื่มด่ำกับความเกียจคร้านในการโอบกอดไวน์สักขวด แอลกอฮอล์บรรเทาความเจ็บปวดได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น ระวังด้วย
ขั้นตอนที่ 7
สื่อสารกับธรรมชาติรับสัตว์เลี้ยง น้องชายคนเล็กของเราผ่อนคลาย กวนใจ และปลอบโยนอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขารักเราอย่างไม่เห็นแก่ตัวและไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
ขั้นตอนที่ 8
ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า "ทำไมเขาถึงถูกพาตัวไป" อย่ามองหามัน บรรพบุรุษของคริสตจักรบอกว่าพระเจ้าทรงเรียกบุคคล และตอนนี้คุณยังคงอยู่ในโลกนี้ หากคุณเป็นคนเคร่งศาสนาแล้วเชื่อว่าการพบปะกับคนที่คุณรักในวันหนึ่งจะเกิดขึ้นในสวรรค์น่าจะช่วยได้
ขั้นตอนที่ 9
ในท้ายที่สุด เราแต่ละคนต้องตกลงกับความจริงที่ว่าความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความรู้นี้ช่วยให้เราดำเนินชีวิตตามเวลาที่จัดสรรไว้ให้เราอย่างสดใส ปราศจากความเศร้าโศก ซึ่งดังที่ทราบในพระคัมภีร์ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย แต่ยังช่วยใครไม่ได้
ขั้นตอนที่ 10
ช่วยเหลือผู้อื่น. มีคนอยู่ใกล้ๆ ที่ต้องการคุณ อย่าเมินเฉยจากเขา รู้สึกว่าจำเป็น และในไม่ช้าชีวิตจะทำให้คุณมีแรงจูงใจใหม่ในการก้าวไปข้างหน้า